
สำหรับนักลงทุน หลายคนคงเคยเห็นหนังสือชื่อว่า พ่อรวยสอนลูก
เล่าเรื่องเกี่ยวกับโลกของการเงินและการลงทุน โด่งดังจนถูกตีพิมพ์หลายภาษา
ส่งให้ตัวผู้เขียนอย่าง โรเบิร์ต คิโยซากิเป็นที่รู้จักเพราะงานเขียนของตัวเอง
วันนี้เราเลยจะพาทุกคนมาเปิดมีมุมมองด้านการเงินแตกต่างกันอย่างชัดเจน
จากหนังสือพ่อรวยสอนลูกกันครับ

1.คนจนทำงานเพื่อเงิน VS คนรวยปล่อยให้เงินทำงานเพื่อพวกเขา
.
คนจนและคนรวยมีวิธีเพิ่มเงินในกระเป๋าต่างกัน โดยคนจนจะยึดติดกับการทำงานรับเงินเดือน ขณะที่คนรวยจะทำให้เงินมีมูลค่าเพิ่มขึ้นด้วยตัวของมันเอง

2.คนจนมักรอโชคลาภ VS คนรวยกล้าเสี่ยงและสร้างโอกาสให้ตัวเองทันที
.
ขณะที่คนจนและคนชั้นกลางมักจะรอให้มีโชคลาภ หรือหวังรวยทางลัดจากการพนัน แต่คนรวยจะสร้างโอกาส และกล้าเสี่ยงด้วยตัวเองอย่างไม่รีรอ

3.คนจนมีเงินเยอะก็ใช้เยอะ VS คนรวยรู้ว่าถ้าใช้เงินผิดวิธีก็ทำให้จนได้เหมือนกัน
.
เพราะเมื่อยิ่งมีเงินมาก ความต้องการก็ยิ่งมากขึ้น เช่น บ้านหลังใหม่ แต่นั่นคือการก่อหนี้สินเพิ่มขึ้น ขณะที่คนรวยจะรู้ว่าต่อให้มั่งคั่งแค่ไหน ถ้าใช้ผิดวิธีเงินก็หมดได้เหมือนกัน

4.คนจนคิดว่าชาตินี้ไม่มีทางรวย VS คนรวยรู้ว่าชุดความคิดแบบไหนที่จะทำให้รวย
.
ขณะที่คนจนตัดพ้อว่า พยายามไปก็เหนื่อยเปล่า ยังไงชาตินี้ก็ไม่มีทางรวย
แต่คนรวยจะเอาเวลาไปคิดว่า จะทำอย่างไรให้เงินที่มีตอนนี้เพิ่มมูลค่าขึ้น
พวกเขาจะไม่ทิ้งเงินก้อนไว้เฉยๆ และแบ่งเวลาเพื่อมาศึกษาการลงทุน

5.คนจนคิดว่าตนเองไม่มีความสามารถ VS คนรวยรู้ว่าทักษะอะไรที่จะทำให้รวยยิ่งขึ้น
.
คนจนมักจะตัดพ้อว่าตัวเองไม่มีความสามารถมากพอ จึงไม่กล้าริเริ่มทำอะไร ขณะที่คนรวยจะรู้ว่าทักษะแบบไหนที่จะทำให้ตัวเองรวยยิ่งขึ้น แล้วเขาก็จะใช้ประโยชน์จากทักษะนั้น เพิ่มพูนรายได้
เนื้อหาด้านบนเป็นเพียงแค่มุมมองจากโรเบิร์ต คิโยซากิ เท่านั้น
ซึ่งเขาเชื่อว่าการมีฐานะร่ำรวยต้องเริ่มต้นที่ความคิดและทัศนคติ
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าความคิดของเขาจะถูกหมดทุกข้อ
ที่มา : aomMONEY